เมื่อสมัยก่อน ประเทศต่างๆมีการปกครอง โดยอำนาจจะตกอยู่กับ บุคคลที่ปกครองประเทศนั้นๆแต่เพียงผู้เดียว โดยประชาชนทั่วไปจะไม่สิทธิด้านเสรีภาพ และ ความเสมอภาคในสังคม ทำให้บ่อยครั้งต้องพบเจอกับความทุกข์ยาก จากความยุติธรรม ตัวอย่างและ จุดเริ่มต้นของโลกนั้นก็คือ การเรียกร้องสิทธิ์ทางการเมือง และ ทางสังคม มีบทบาทอย่างมากของการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ เริ่มต้นจากการรวบรวมขุนนางที่ครองที่ดิน ในประเทศอังกฤษในสมัยกลางได้รวบรวมสมาชิกเพื่อ ไปเรียกร้องสิทธิกับ กษัตริย์ ทรงพระนามว่า พระเจ้าจอห์นพระราชทานกฎบัตร Magan Carta (แมกนาคาร์ตา)ค.ศ. 1215 เพื่อให้มีการรับรอง ว่าพระองค์จะปกครองประเทศโดยมีความยุติธรรม เช่น ไม่ตัดสินคดี โดยตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เก็บค่าภาษีมากเกินไป ไม่ลงโทษ โดยไม่พิจารณาคดีอย่าง ยุติธรรม และขอให้ปลดผู้พิพากษา หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ทำงานอย่างไม่ตรงไปตรงมา ไม่ซื่อสัตย์สุจริตออกจากตำแหน่ง แมกนา Magan Carta เป็นบทบัญญัติอย่างเป็นทางการฉบับแรกของประเทศอังกฤษและของโลก ที่มีกำหนดอำนาจหน้าที่ของ กษัตริย์ ที่เป็นลายลักษณ์อักษร
ต่อมาการเรียกร้องสิทธิมนุษชนสากล เริ่มได้รับความสำคัญมากขึ้น ที่ต้องการมีการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จึงเริ่มต้นการความร่วมกันระหว่างประเทศ เพื่อประชุมและร่างบทบัญญัติคุ้มครองสิทธิของความเป็นมนุษย์มากขึ้น สนธิสัญญาฉบับแรกเริ่มต้นด้วยการ ให้การยอมรับเรื่องนับถือศาสนา การยกเลิกทาส และปกป้องสิทธิ ในยามทำสงคราม กำเนิดขึ้นใช้ชื่อว่า “International Committee of the Red Cross” ปี ค.ศ.1864 นับเป็นการร่วมมือกันที่สำคัญจนมาถึงปัจจุบัน
เหตุการณ์ที่สำคัญของการละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 เกิดจากประเทศเยอรมนี มีการปกครองแบบระบอบเผด็จการ ได้มีการล่วงละเมิดอย่างรุนแรง ได้ทำลายล้างชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นจำนวนมาก และ ทำลานศักดิ์ศรีของมนุษย์ รวมถึงทำลายกลุ่มชนชาติต่างๆ โดยอ้างเหตุผลในเรื่องศาสนาและเชื่อชาติ จึงต้องร่างบัญญัติระดับนานานชาติ ที่นำให้โลกมีสันติภาพ และ ความสงบสุข