การล่วงละเมิดทางเพศ และสิทธิของมนุษย์

การถูกล่วงละเมิดทางเพศ หมายถึง พฤติกรรมการกระทำทาเพศต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคำพูด หรือสายตา และท่าที รวมไปถึงการบีบบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่าข่มขืน วัยรุ่นในยุคนี้นั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ หรือฮอร์โมน ที่เกิดขึ้นมากับการเจริญเติบโตของมนุษย์ มีอารมณ์ที่ไม่แน่นอน หรือควบคุมไม่ได้อย่างเฉียบพลัน บางครั้งอาจเกิดความ

สับสน ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ ไม่กล้าพูดคุยกับผู้อื่น หากไม่ละมัดระวังตัวเอง รวมไปถึงพฤติกรรมที่ไม่เหาะสม ในภายภาคหน้าอาจส่งผลกระทบต่อผิอื่นและตนเองได้

วิธีการป้องกันการเกิดถูกล่วงละเมิดทางเพศ และวิธีป้องกันอย่างถูกต้อง

แนวทางการป้องกันตนเอง

  1. หากจะออกไปในสถานที่อื่นๆ ควรแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ แจ้งสถานที่ แจ้งเวลาไป หรือกลับ
  2. ไม่ควรออกไปข้างนอกเพียงลำพัง
  3. ห้ามไว้ใจคนแปลกหน้า อย่างหลงเชื่อกับผู้คนที่มาตีสนิท
  4. หลีกเลี่ยงการถูกแตะต้องตัว
  5. หากเกิดปัญหาแล้วควรรีบปรึกษา พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง ไม่ควรอายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

ควรมีทักษะการป้องกันการถูกล่วงละเมิด

  1. การใช้ทักษะที่ว่านี้ จะเรียกว่าการปฏิเสธ เป็นทักษะของการบ่ายเบี่ยง หรือตีห่างออกจากผู้ที่เราไม่มั่นใจ
  2. การปฏิเสธ ควรกระทำอย่างจริงจัง ทั้งท่าทาง และน้ำเสียง เพื่อขอปฏิเสธอย่างชัดเจน
  3. แสดงการขอบคุณ ถือว่าเป็นการบ่ายเบี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นการรักษาน้ำใจของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

ทักษะการต่อรอง เป็นวิธีโน้มน้าวให้เป็นการปฏิเสธ หรือสิ่งที่เราไม่อยากระทำ และไม่อยากจะไป

ทักษะผ่อนผัน เป็นวิธีบ่ายเบี่ยง เพื่อพูดจาต่อรองให้ผู้ที่กระทำนั้นรู้สึกผ่อนคลาย

ทักษะอื่นๆ เช่นการลีกเลี่ยงสถานที่อับหรือห่างไกลจากสายตาผู้คน ลีกเลี่ยงการไปไหนมาไหนลำพัง และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาคือหลักพื้นฐานของการปฏิเสธเบื้องต้นต่อการคาดเดาว่าจะถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่จะตกเป็นเหยื่อ ออกห่างจากผู้ที่คิดจะล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น